จุดด่างดำหรือผิวหมองคล้ำไม่ใช่เรื่องผิดปกติในชายและหญิง แม้ว่าทุกวันนี้จะมีการเยียวยา และการรักษา สามารถกำจัดมันได้แต่คุณอาจจะต้องการทราบสาเหตุที่ทำให้เกิดผิวคล้ำ คุณอาจจะแปลกใจที่นิสัยในชีวิตประจำวันเป็นหนึ่งในสาเหตุของปัญหาผิวนี้
Chinju Cosmetic
วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2558
สาเหตุผิวคล้ำที่คุณอาจไม่รู้
จุดด่างดำหรือผิวหมองคล้ำไม่ใช่เรื่องผิดปกติในชายและหญิง แม้ว่าทุกวันนี้จะมีการเยียวยา และการรักษา สามารถกำจัดมันได้แต่คุณอาจจะต้องการทราบสาเหตุที่ทำให้เกิดผิวคล้ำ คุณอาจจะแปลกใจที่นิสัยในชีวิตประจำวันเป็นหนึ่งในสาเหตุของปัญหาผิวนี้
วันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2558
สรรพคุณความงามที่น่าสนใจของกุหลาบ
กุหลาบส่งผลอย่างน่าอัศจรรย์ ต่อผิวหนัง ร่างกายและจิตใจของคุณ พวกมันถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมในด้านเครื่องสำอางความสวยความงาม ตั้งแต่สมัยโบราณวันนี้เรามีคุณประโยชน์ของดอกไม้แสนสวยนี้ และวิธีที่จะใช้มันมาดูแลผิวของคุณ
จะช่วยต่อสู้สิว
วิธีใช้ :
นำกลีบกุหลาบไปชุบน้ำ
แล้วนำไปแปะบริเวณใบหน้าของคุณ ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น
ทำอาทิตย์ละสามครั้ง จะเห็นผลลัพธ์ของมัน
ดีต่อผิวแห้ง
วิธีใช้ :
แช่กุหลาบไว้ในน้ำ
ใช้เมล็ดอัลมอนด์พอประมาณ
รวมอัลมอนด์และกลีบกุหลาบเข้าด้วยกัน และใช้บนใบหน้า จะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วล้างออก
ทำสัปดาห์ละสองครั้งเพื่อผิวที่ชุ่มชื้น
เป็นโทนเนอร์ธรรมชาติ
วิธีใช้ :
แช่กลีบกุหลาบในน้ำทิ้งไว้พอประมาณ
คุณสามารถใช้น้ำล้างหน้าได้แทนโทนเนอร์ตามท้องตลาดที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม
ทำทุกวันก่อนนอนช่วยให้ผิวเรียบเนียนกระจ่างใส
ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด
วิธีใช้ :
ผสมน้ำแตงกวา 2 ช้อนโต๊ะ และกลีเซอรีน 2 ช้อนโต๊ะ
นำกลีบกุหลาบลงผสมและปล่อยทิ้งไว้ซักครู่
ทาบริเวณใบหน้าก่อนออกแดด ประมาณ 1 ชั่วโมง
บรรเทาความเหนื่อยล้าและถูงใต้ตา
วิธีใช้ :
คุณสามารถแปะกลีบกุหลาบไว้รอบๆดวงตาของคุณ และทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที
ทำเป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่า รอบดวงตาของคุณจะเนียนนุ่มอยู่เสมอ
วันจันทร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2558
ความเครียดและผลกระทบต่อผิว
นอกจากการเลือกรับประทานอาหารและใช้เครื่องสำอางอย่างไม่เหมาะสมแล้ว ความเครียดก็เป็นสาเหตุหลักของปัญหาผิวด้วย
ทางสรีรวิทยามันทำงานโดย เมื่อเกิดความเครียดขึ้นมาต่อมหมวกไตของคุณก็จะผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล ทำให้หัวใจเต้นแรง ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงขึ้น และถ้าเครียดมากๆร่างกายของคุณอาจจะไม่สามารถควบคุมระดับของคอร์ติซอได้ จนร่างกายเริ่มแสดงสัญญาณที่ไวต่อการเกิดสิว หรือผิวแตกลาย
สาเหตุที่เกิดสิวมากกว่าปกติเมื่อคุณเครียด
มีระดับซีบั่มในร่างกายสูงขึ้น :
มีระดับฮอร์โมนในร่างกายสูงขึ้น :
ความเครียดยังเป็นศัตรูที่น่ากลัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อร่างกายอ่อนแอ ปัญหาการเกิดสิว,
โรค rosacea (“อาการหน้าแดง” ซึ่งจะพบบริเวณจมูก และ แก้มทั้ง2ข้าง) ,สัญญาณต่างๆของริ้วรอย,ผิวแห้งหรือมันมากๆ,สะเก็ดเงิน,เริม,ภูมิแพ้,สัญญาณต่างๆของริ้วรอย ฯลฯ ความเครียดจะทำให้อาการแย่ลง และกินเวลาการรักษานานมากขึ้น
ผลกระทบต่อระบบอื่นๆของร่างกายอันเนื่องมาจากความเครียด เช่น
ระบบหัวใจ หลอดเลือด : หัวใจเต้นเร็ว-ช้า ผิดปกติ
ระบบทางเดินอาหาร : ทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องผูด ท้องเดิน โรคกระเพราะ
จะเห็นได้ว่าความเครียด ส่งผลเสียต่อร่างกายเราหลายอย่าง การขจัดความเครียดสำหรับบางคนอาจจะเป็นเรื่องยาก และหลายคนมีวิธีการลดความเครียดแตกต่างกันไป แต่เมื่อเราขจัดความเครียดได้ โรคหลายชนิดรวมถึงโรคผิวหนัง ริ้วรอยเหี่ยวย่นต่างๆก็จะลดน้อยลง
วันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2558
ทิปส์การรักษาสิวเบื้องต้น
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เป็นสิว แน่นอนว่ามีอีกหลายคนเป็นอย่างนั้นด้วย จากการสำรวจพบว่าสิวในช่วงวัยรุ่นจะพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง แต่เมื่อเป็นผู้ใหญ่จะพบในผู้หญิงได้มากกว่า
รู้จักสาเหตุของการเกิดสิว
รูขุมขนอุดตันและแบคทีเรีย : ในช่วงวัยรุ่น ต่อมในผิวหนังจะเริ่มหลั่งไขมัน ปกติออกมาผ่านรูขุมขน แต่ในบางคนมีไขมันอุดตันในรูขุมขน ช่วยให้แบคทีเรียที่เรียกว่า P.Acne (Pro pionibacterium acnes) เริ่มที่จะเติบโต
ฮอร์โมน : ในปีวัยรุ่นของคุณฮอร์โมนเริ่มเปลี่ยนแปลงและมีผลกระทบต่อร่างกายของคุณรวมทั้งก่อให้เกิดสิว นอกจากนี้ยังเกิดขึ้นในระหว่างการตั้งครรภ์ซึ่งอธิบายว่าทำไมหญิงตั้งครรภ์หรือหญิงที่มีรอบเดือนมักจะมีสิว ฮอร์โมนปล่อยออกมาในช่วงเวลาที่เครียดยังสามารถก่อให้เกิดสิว
พันธุศาสตร์ : คุณอาจจะมีแนวโน้มที่จะเป็นสิว ถ้าพ่อแม่ของคุณมีสิวเมื่อพวกเขาอายุยังน้อย
การรักษาสิวที่ถูกต้อง
นี่คือเคล็ดลับบางประการที่จะช่วยแก้ปัญหาสิว
ใช้สบู่ล้างหน้าที่อ่อนโยน
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี benzoyl peroxide เป็นส่วนผสม 5%
รักษาทั่วบริเวณใบหน้า ไม่ใช่การรักษาเพียงเฉพาะจุด วิธีนี้จะทำให้คุณได้รักษาสิวที่อยู่ใต้ผิวหนังที่คุณยังมองไม่เห็น
และสิ่งที่คุณควรอยู่ห่างสำหรับผิวหน้าที่เป็นสิว
สครับผิวหน้าชนิดต่าง
พัฟหน้า หรือแผ่นขัด
เคล็ดลับอื่นๆในการรักษาสิว
หลีกเลี่ยงแสงแดด ในขณะที่บางคนอาจจะคิดว่ามันทำให้สิวดีขึ้น แต่รังสีจากแสงแดดยังทำให้เกิดปัญหาที่ไม่พึงประสงค์อื่นๆ เช่นริ้วรอยก่อนวัย หรือมะเร็งผิวหนัง เป็นต้น
เมื่อการรักษาสิวเบื้องต้นและตามคำแนะนำใช้ไม่ได้ผล คุณสามารถปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เพื่อการรักษาเพิ่มเติม
วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2558
สภาพผิวของเราเป็นแบบไหน
คุณมีผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวผสม? การเข้าใจความแตกต่างจะช่วยให้รู้วิธีการดูแลผิวของคุณ
ผิวโดยทั่วไปจำแนกเป็นหนึ่งในสี่ประเภทนี้คือ : ผิวปกติ มัน แห้งและผสม อย่างไรก็ตามสภาพผิวของคุณสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ตามอายุและปัจจัยอื่นๆเช่นยีนส์ หรือแม้แต่การเจ็บป่วย ก็ส่งผลกระทบได้
ผิวปกติ : เป็นผิวที่มีความสมดุลของความชุ่มชื้น รูขุมขนเล็ก และเป็นผิวที่หลายคนต้องการ คนส่วนใหญ่มีผิวแบบปกติ แต่เพื่อรักษาให้ผิวดูดีเสมอการใช้ครีมกันแดด ที่ SPF อย่างน้อย 30 ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันริ้วรอยและความเสียหายอื่นๆจากแสงแดด และควรทาครีมจนเป็นกิจวัตร โดยไม่สนใจว่าวันนั้นจะอากาศหนาว หรือมีฝน
ผิวมัน : จะดูจากน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า ผิวประเภทนี้มักจะเป็นปัญหามากที่สุด เพราะไขมันจะผลิตออกมาเกินความจำเป็นทำให้ใบหน้ามัน รูขุมขนกว้าง เมื่อสัมผัสกับฝุ่นหรือละอองก็จะเกาะได้ง่ายและอาจเกิดการอุดตันได้
การดูแล : ควรบำรุงผิวโดยใช้โทนเนอร์ โลชั่น ซีรั่มเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ moisturizer และมีน้ำมันน้อย หลีกเลี่ยงความเครียดและการแคะเมื่อเป็นสิว ลดอาหารมันและหวาน งดดื่มเหล้าและสูบบุหรี่
ผิวผสม : เป็นผิวที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เพราะจะมีความมันและรูขุมขนกว้างบนทีโซน และมีผิวแบบปกติหรือแห้งบริเวณแก้ม ทำให้เกิดการดูแลได้ยาก ปัญหาที่อาจจะพบคือการเป็นสิวบริเวณทีโซน
การดูแล : ดูแลผิวบริเวณทีโซนด้วยวิธีดูแลแบบผิวมัน ใช้ผลิตภัณฑ์กระชับรูขุมขนและควบคุมความมัน มาร์กหน้าส่วนทีโซนเพื่อขจัดความมัน และใช้มาร์กที่ให้ความชุ่มชื้นบริเวณแก้มเพื่อลดความแห้ง
ผิวแห้ง : เกิดจากต่อมไขมันผลิตไขมันตามธรรมชาติได้น้อย ทำให้ผิวขาดน้ำมันความชุ่มชื้น และผิวจะแห้งเป็นขุย เกิดริ้วรอยได้ง่ายและอาจจะทำให้รู้สึกแสบคันได้
การดูแล : ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรอ่อนโยนเพื่อล้างเครื่องสำอางที่ตกค้างและเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแห้งและผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อบำรุงผิวและเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว
ถ้าหากคุณยังคงไม่มั่นใจว่ามีสภาพผิวแบบใด ก็สามารถปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพิ่มเติม เพื่อการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2558
แก้ปัญหาผิวแห้งด้วยวิธีธรรมชาติ
ผิวแห้งทำให้รู้สึกแย่แลดูไม่สวยงาม สำหรับทางออกที่ง่ายๆอยู่ใกล้กับห้องครัวของคุณพยายามใช้ตัวเลือกจากธรรมชาติ เพื่อทำให้ผิวแห้งกร้านกลับมาอีกครั้ง
ผิวแห้งไม่เพียงแค่รู้สึกหยาบเมื่อสัมผัส : มันมีผลกระทบต่อผิวคุณหลายอย่าง เมื่อใช้เครื่องสำอางกับใบหน้าหน้าก็จะทำให้เกิดรอยหยดๆด่างๆ ข่าวดีคือคุณยังไม่จำเป็นต้องมุ่งหน้าไปยังแพทย์ผิวหนังหรือได้รับใบสั่งยาเพื่อรักษาผิวแห้งของคุณ เพราะยังมีตัวเลือกอื่นในการรักษา โดยการใช้วิธีธรรมชาติเพิ่มเข้าไปกับการดูแลผิวที่ทำเป็นประจำทุกวัน และในความเป็นจริงแล้ว ส่วนผสมสำหรับการเยียวยาผิวแห้งเหล่านี้อาจจะอยู่ในครัวของคุณนั่นเอง
มีขวดหรือกระปุกนับไม่ถ้วนทั้งโลชั่น ครีม หรือ moisturizers ที่ให้เราได้เลือกใช้และดูแลผิวแต่การดูแลผิวด้วยธรรมชาติอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
น้ำมันตามธรรมชาติมีความบริสุทธิ์ ผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายทั่วไปไม่เพียงแต่จะมีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นแต่ยังมีหลายผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารกันบูด แอลกอฮอล์ หรือน้ำหอม เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองอาการแพ้หรือการทำให้ผิวแห้งขึ้นได้
1.น้ำมันมะกอก :
มันสามารถเป็น cleanser และ moisturizer ที่ดีและมันจะไม่ดึงความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ ออกจากผิวของคุณ อีกทั้งยังช่วยให้ผิวสะอาดขึ้น
2.มาร์กหน้าด้วยอะโวคาโด :
มันช่วยปลอบประโลมผิวแห้ง ด้วยการนำอะโวคาโดครึ่งลูกผสมกับน้ำมันมะกอก 1ช้อนชา แล้วอาจจะเพิ่มน้ำผึ้งอีก 1 ช้อนโต๊ะสำหรับคนที่มีผิวแห้งมาก หลังจากนั้นนำไปมาร์กหน้าและทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วล้างออก ผิวของคุณจะรู้สึกชุ่มชื้นนุ่มนวลขึ้น
3.สครับผิวด้วยน้ำมันมะกอกผสมน้ำตาล :
สร้างการขัดผิวให้ชุ่มชื้นตามธรรมชาติ ด้วยการผสมน้ำมันมะกอกกับน้ำตาลด้วยอัตราส่วนของน้ำตาลครึ่งถ้วยต่อน้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ อาจจะเพิ่มน้ำมันหอมระเหยเช่นลาเวนเดอร์ เพื่อเพิ่มกลิ่นและช่วยในการผ่อนคลาย ค่อยๆขัดผิวของคุณแล้วล้างออก
4.แช่น้ำผสมข้าวโอ๊ตบด :
ผสมข้าวโอ๊ตบดในอ่างอาบน้ำ จะช่วยคงความชุ่มชื้นในผิวหลังการอาบน้ำได้
5.มาร์กหน้าด้วยข้าวโอ๊ตผสมน้ำผึ้ง :
ข้าวโอ๊ตช่วยในการผลัดเซลล์ผิว โดยให้ใช้ข้าวโอ๊ต 2 ช้อนโต๊ะผสมกับนมสด และน้ำผึ้งอีก 1 ช้อนโต๊ะจากนั้นคนให้ส่วนผสมทั้งสามเข้ากัน แล้วนำมาทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอ ยกเว้นรอบดวงตาและริมฝีปาก เมื่อแห้งก็ให้ล้างออกได้
วิธีการหลีกเลี่ยงผิวแห้งกำเริบ
ใช้ครีมบำรุงผิวที่อุดมไปด้วยการปกป้องผิวจากผิวแห้ง ให้เป็นประจำทุกวันตั้งแต่หัวจรดเท้า หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนมากๆ เป็นเวลานานๆ นอกจากนี้คุณยังสามารถเพิ่มปริมาณการดื่มน้ำในแต่ละวัน เพื่อความชุ่มชื้นจากภายในสู่ภายนอก
ผิวแห้งไม่เพียงแค่รู้สึกหยาบเมื่อสัมผัส : มันมีผลกระทบต่อผิวคุณหลายอย่าง เมื่อใช้เครื่องสำอางกับใบหน้าหน้าก็จะทำให้เกิดรอยหยดๆด่างๆ ข่าวดีคือคุณยังไม่จำเป็นต้องมุ่งหน้าไปยังแพทย์ผิวหนังหรือได้รับใบสั่งยาเพื่อรักษาผิวแห้งของคุณ เพราะยังมีตัวเลือกอื่นในการรักษา โดยการใช้วิธีธรรมชาติเพิ่มเข้าไปกับการดูแลผิวที่ทำเป็นประจำทุกวัน และในความเป็นจริงแล้ว ส่วนผสมสำหรับการเยียวยาผิวแห้งเหล่านี้อาจจะอยู่ในครัวของคุณนั่นเอง
ทำไมการเยียวยาผิวทางธรรมชาติอาจจะดีกว่า
น้ำมันตามธรรมชาติมีความบริสุทธิ์ ผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายทั่วไปไม่เพียงแต่จะมีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นแต่ยังมีหลายผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารกันบูด แอลกอฮอล์ หรือน้ำหอม เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองอาการแพ้หรือการทำให้ผิวแห้งขึ้นได้
ลองดูวิธีจากธรรมชาติเหล่านี้เพื่อการเยียวยาผิวแห้งของคุณ
มันสามารถเป็น cleanser และ moisturizer ที่ดีและมันจะไม่ดึงความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ ออกจากผิวของคุณ อีกทั้งยังช่วยให้ผิวสะอาดขึ้น
2.มาร์กหน้าด้วยอะโวคาโด :
3.สครับผิวด้วยน้ำมันมะกอกผสมน้ำตาล :
4.แช่น้ำผสมข้าวโอ๊ตบด :
5.มาร์กหน้าด้วยข้าวโอ๊ตผสมน้ำผึ้ง :
วิธีการหลีกเลี่ยงผิวแห้งกำเริบ
ใช้ครีมบำรุงผิวที่อุดมไปด้วยการปกป้องผิวจากผิวแห้ง ให้เป็นประจำทุกวันตั้งแต่หัวจรดเท้า หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนมากๆ เป็นเวลานานๆ นอกจากนี้คุณยังสามารถเพิ่มปริมาณการดื่มน้ำในแต่ละวัน เพื่อความชุ่มชื้นจากภายในสู่ภายนอก
วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2558
6 เป้าหมายการรับประทาน เพื่อสุขภาพ
การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย สามารถสร้างความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ให้ร่างกายของคุณได้ ลองผสมอย่างน้อยหกถึงแปดวิธีข้างล่าง ลงในอาหารของคุณ
ทำให้จานของคุณครึ่งนึงมีผักหรือผลไม้ :
เลือกผักสีแดง,สีส้ม,และสีเขียวเข้ม เช่นมะเขือเทศ มันฝรั่งหรือผักหลากชนิด สำหรับมื้ออาหารของคุณเพิ่มผลไม้เป็นส่วนหนึ่งของอาหารจานหลัก เครื่องเคียง หรือของหวาน เพื่อเพิ่มความสวยงามและให้ร่างกายของคุณมีโอกาสที่จะได้รับวิตามิน แร่ธาตุและเส้นใยอาหารเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
ผสมธัญพืช :
วิธีง่ายๆที่จะได้รับธัญพืชมากขึ้น คือการเปลี่ยนจากการทานอาหารขัดสี เป็นชนิดไม่ขัดแทน ตัวอย่างเช่นข้าวกล้อง แทนข้าวสารสีขาวหรือขนมปังโฮลวีท แทนขนมปังขาว เป็นต้น
เปลี่ยนเป็นการดื่มนมไม่มีไขมันหรือนมไขมันต่ำ :
นมทั้งสองชนิดมีปริมาณเท่ากัน ทั้งแคลเซียมและสารอาหารที่จำเป็นอื่นๆ เมื่อเทียบกับนมปกติ แต่นมเหล่านี้จะมีแคลอรี่ และไขมันอิ่มตัวน้อยลง
เลือกได้หลากหลายกับอาหารโปรตีนไขมันอิ่มตัวต่ำ :
ส่วนใหญ่จะได้จากเนื้อสัตว์ โปรตีนจากสัตว์มีสารอาหารอยู่มาก เช่น วิตามิน K, B12, และธาตุเหล็ก มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก ลดความอ้วน การรับประทานอาหารจำพวกโปรตีน ที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณยังคงกล้ามเนื้อไว้ได้ หลังจากที่ไขมันลดลง อาหารโปรตีนไขมันต่ำที่ควรทานมีหลายชนิด เช่น ไข่,นม,ปลา,เนื้อไม่ติดมัน,สัตว์ปีก,อาหารทะเลและถั่ว เป็นต้น
เปรียบเทียบโซเดียมในอาหาร :
ควรหมั่นตรวจสอบฉลากข้างผลิตภัณฑ์ ต่างๆและเลือกสินค้าที่มีโซเดียมน้อยกว่า ไม่ว่าจะเป็นซุป,ขนมปัง หรืออาหารแช่แข็ง หาข้อความที่เขียนว่าโซเดียมต่ำ หรือไม่เติมเกลือ
กินอาหารทะเลบ้าง :
อาหารทะเลประกอบด้วย ปลา(เช่นปลาแซลมอน,ปลาทูน่า) และหอย(เช่นหอยแมลงภู่หรือหอยนางรม) อาหารทะเลมีโปรตีนเกลือแร่และโอเมก้า 3 ผู้ใหญ่ควรรับประทาน 28 กรัมต่อสัปดาห์ และเด็กสามารถรับประทานในปริมาณที่น้อยกว่าผู้ใหญ่เล็กน้อย
ทำให้จานของคุณครึ่งนึงมีผักหรือผลไม้ :
เลือกผักสีแดง,สีส้ม,และสีเขียวเข้ม เช่นมะเขือเทศ มันฝรั่งหรือผักหลากชนิด สำหรับมื้ออาหารของคุณเพิ่มผลไม้เป็นส่วนหนึ่งของอาหารจานหลัก เครื่องเคียง หรือของหวาน เพื่อเพิ่มความสวยงามและให้ร่างกายของคุณมีโอกาสที่จะได้รับวิตามิน แร่ธาตุและเส้นใยอาหารเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
ผสมธัญพืช :
วิธีง่ายๆที่จะได้รับธัญพืชมากขึ้น คือการเปลี่ยนจากการทานอาหารขัดสี เป็นชนิดไม่ขัดแทน ตัวอย่างเช่นข้าวกล้อง แทนข้าวสารสีขาวหรือขนมปังโฮลวีท แทนขนมปังขาว เป็นต้น
เปลี่ยนเป็นการดื่มนมไม่มีไขมันหรือนมไขมันต่ำ :
นมทั้งสองชนิดมีปริมาณเท่ากัน ทั้งแคลเซียมและสารอาหารที่จำเป็นอื่นๆ เมื่อเทียบกับนมปกติ แต่นมเหล่านี้จะมีแคลอรี่ และไขมันอิ่มตัวน้อยลง
เลือกได้หลากหลายกับอาหารโปรตีนไขมันอิ่มตัวต่ำ :
ส่วนใหญ่จะได้จากเนื้อสัตว์ โปรตีนจากสัตว์มีสารอาหารอยู่มาก เช่น วิตามิน K, B12, และธาตุเหล็ก มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก ลดความอ้วน การรับประทานอาหารจำพวกโปรตีน ที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณยังคงกล้ามเนื้อไว้ได้ หลังจากที่ไขมันลดลง อาหารโปรตีนไขมันต่ำที่ควรทานมีหลายชนิด เช่น ไข่,นม,ปลา,เนื้อไม่ติดมัน,สัตว์ปีก,อาหารทะเลและถั่ว เป็นต้น
เปรียบเทียบโซเดียมในอาหาร :
ควรหมั่นตรวจสอบฉลากข้างผลิตภัณฑ์ ต่างๆและเลือกสินค้าที่มีโซเดียมน้อยกว่า ไม่ว่าจะเป็นซุป,ขนมปัง หรืออาหารแช่แข็ง หาข้อความที่เขียนว่าโซเดียมต่ำ หรือไม่เติมเกลือ
กินอาหารทะเลบ้าง :
อาหารทะเลประกอบด้วย ปลา(เช่นปลาแซลมอน,ปลาทูน่า) และหอย(เช่นหอยแมลงภู่หรือหอยนางรม) อาหารทะเลมีโปรตีนเกลือแร่และโอเมก้า 3 ผู้ใหญ่ควรรับประทาน 28 กรัมต่อสัปดาห์ และเด็กสามารถรับประทานในปริมาณที่น้อยกว่าผู้ใหญ่เล็กน้อย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)